

ISO 27001 คือมาตรฐานอะไร
ISO/IEC 27001 เป็นมาตรฐานชั้นนำระดับสากลสำหรับจัดการความมั่นคงปลอดภัยทางสารสนเทศ หรือ ISMS
องค์กรต่างๆทั่วโลกมีการดำเนินการและบริหารจัดการระบบ ISMS เพื่อ
- ปกป้องข้อมูลที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ
- ลดความเสี่ยงและรับประกันการดำเนินงานที่มั่นคง
- สร้างความมั่นใจให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและลูกค้า
เพื่อสนับสนุนคุณในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ทูฟ ซูด ขอเสนอการรับรองมาตรฐาน ISO 27001:2022 ISMS และหลักสูตรอบรม ISO 27001:2022 ทั้งที่นำโดยผู้สอนและหลักสูตรอีเลิร์นนิง
ประโยชน์ที่คุณจะได้รับ
หลักสูตรฝึกอบรมและรับรองมาตรฐาน ISO 27001 จาก ทูฟ ซูด ช่วยให้คุณสามารถเรียนรู้และดำเนินการสิ่งต่อไปนี้:
- จัดให้มีผู้มีความรู้และทักษะในการจัดเตรียม ดำเนินการ รายงาน และติดตามการตรวจสอบระบบการจัดการความปลอดภัยของข้อมูลของบุคคลที่ 1, 2 และ 3
- เพื่อให้ได้ภาพรวมของ ISO 27001 รวมถึงวิวัฒนาการ หลักการ ISMS แนวคิดหลัก โครงสร้าง และอื่นๆ
- รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีที่คุณสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพ ISMS ขององค์กรของคุณโดยมีจุดประสงค์เพื่อรักษาทรัพย์สินข้อมูลที่สำคัญให้ปลอดภัย
- เมื่อสำเร็จหลักสูตร คุณจะได้รับใบรับรองการฝึกอบรมผู้ตรวจสอบภายใน ISO 27001:2022 ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
- เอกสารการฝึกอบรมและคำแนะนำตั้งแต่ต้นจนจบเกี่ยวกับข้อกำหนดของระบบการจัดการความปลอดภัยของข้อมูล (ISMS)
- ปกป้องข้อมูลสำคัญทางธุรกิจจากภัยคุกคามที่หลากหลายด้วย ISO 27001 ISMS เพื่อให้มั่นใจถึงความต่อเนื่องทางธุรกิจ ลดขนาดให้เหลือน้อยที่สุด
- ลดความเสี่ยงทางธุรกิจ เพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนสูงสุด และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
ISO 9001 คืออะไร?
ระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001 (QMS) คือมาตรฐานการจัดการองค์กรตามระดับสากลที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับมากที่สุดในโลก โดยมีองค์กรที่ได้รับการรับรองตามข้อกําหนด ISO 9001 มากกว่าหนึ่งล้านแห่งใน 180 ประเทศทั่วโลก มาตรฐาน ISO 9001 เป็นกรอบการบริหารงานด้านคุณภาพที่บริษัทต่าง ๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อให้แน่ใจว่าคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการมีความสม่ำเสมอ นอกจากนี้ระบบ ISO 9001 ยังเป็นการรับรองและแสดงถึงการดูแลด้านจัดการและคุณภาพอย่างเหมาะสมเพื่อรักษามาตรฐานระดับสูง ซึ่งจะช่วยลดโอกาสความผิดพลาดของผลิตภัณฑ์ การเรียกคืนหรือข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์และบริการ รวมไปถึงยังมีส่วนช่วยในการสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าเกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้าและบริการได้อย่างมั่นใจ
ประโยชน์ของการรับรอง ISO 9001 คืออะไร?
การรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001 แสดงให้เห็นถึงความสามารถขององค์กรในการตอบสนองต่อความต้องการลูกค้า รวมถึงยังเป็นการตอกย้ำว่าองค์กรมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อก้าวไปสู่มาตรฐานที่เกินความคาดหมายของลูกค้า ผู้ซื้อและผู้ค้าปลีกระดับองค์กรจำนวนมากกำหนดให้ผู้ส่งมอบสินค้าและบริการของตนต้องได้รับการรับรอง ISO 9001 เพื่อลดความเสี่ยงในการซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ไม่มีคุณภาพหรือไม่ได้มาตรฐาน การได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการขยายโอกาสทางธุรกิจของคุณ ทั้งจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการ นอกจากนี้แล้ว ธุรกิจที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพขององค์กร รวมถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างมีนัยสำคัญ เพราะมาตรฐานดังกล่าวสามารถช่วยในเรื่องการลดของเสียและข้อผิดพลาดจากการทำงาน และการผลิตได้ ตลอดจนสามารถช่วยเพิ่มผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแนวทางและขั้นตอนการทำ ISO 9001 เพื่อขอการรับรองของเราครอบคลุมทุกธุรกิจที่เกี่ยวกับระบบมาตรฐาน ISO 9001 ตามข้อกำหนดและผลประโยชน์ที่จะได้รับ เพื่อเป็นแนวทางในการประยุกต์ใช้ให้เข้ากับธุรกิจของคุณต่อไป
มาตรฐานระบบวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุมในการผลิตอาหาร (HACCP)
ระบบการวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุมในการผลิตอาหาร HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Point System) เป็นระบบการจัดการเพื่อความปลอดภัยของอาหาร โดยใช้การควบคุมจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม (CCP) ของการผลิต ซึ่งระบบดังกล่าว ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารสามารถนำไปปฏิบัติได้โดยตลอดในห่วงโซ่อาหาร ตั้งแต่ผู้ผลิตเบื้องต้น (Primary Producer) จนถึงผู้บริโภคขั้นสุดท้าย เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังลดการกีดกันทางการค้าของประเทศนำเข้าอีกด้วย ระบบ HACCP ยึดหลักเกณฑ์ตามโครงการมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ (Codex) ซึ่งสามารถป้องกันอันตราย หรือสิ่งปนเปื้อนทางชีวภาพ เคมี และกายภาพของอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะเน้นการควบคุมพนักงานและ / หรือเทคนิคการตรวจติดตามอย่างต่อเนื่องที่จุดวิกฤตที่ต้องควบคุมและลดความ สำคัญของการตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุดท้าย
GMP พื้นฐานที่ดีสู่ HACCP
หลักการที่จะนำ HACCP มาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมอาหารได้อย่างมีประสิทธิผลนั้น โรงงานจำเป็นจะต้องมีการจัดทำโปรแกรมพื้นฐานด้านสุขลักษณะการผลิตอาหาร : Pre-requisite programme หรืออีกนัยหนึ่งคือ GMP (Good Manufacturing Practices) ของโรงงานมีความสะดวกต่อการดำเนินการให้มีประสิทธิผล ดังนั้น โรงงานที่ยังไม่ได้นำระบบ HACCP มาใช้ควรเตรียมการเสียแต่เนิ่น ๆ ส่วนโรงงานที่มีการนำระบบ GMP มาใช้ในโรงงานอยู่แล้ว จะสามารถนำระบบ HACCP ไปประยุกต์ใช้ให้ประสบผลสำเร็จยิ่งขึ้นหลักการของระบบ HACCP
หลักการที่ 1 การดำเนินการวิเคราะห์อันตราย
หลักการที่ 2 หาจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม
หลักการที่ 3 กำหนดค่าวิกฤต
หลักการที่ 4 กำหนดระบบเพื่อตรวจติดตามการควบคุมจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม
หลักการที่ 5 กำหนดวิธีการแก้ไข เมื่อตรวจพบว่าจุดวิกฤตที่ต้องควบคุมเฉพาะจุดใดจุดหนึ่งไม่ อยู่ภายใต้การควบคุม
หลักการที่ 6 กำหนดวิธีการทวนสอบเพื่อยืนยันประสิทธิภาพการดำเนินงานของระบบ HACCP
หลักการที่ 7 กำหนดวิธีการจัดเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องกับวิธีการปฏิบัติและบันทึกข้อมูล ต่าง ๆ ที่ เหมาะสมตามหลักการเหล่านี้ และการประยุกต์ใช้ประโยชน์ที่ได้รับ
- เกิดผลดีต่อสุขภาพอนามัยของผู้บริโภค
- ลดการสูญเสียในด้านเศรษฐกิจเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
- มีการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยของอาหารอย่างมีระบบ และใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดค่าใช้จ่าย
- ลดการกีดกันทางการค้า และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการตลาด
- เกิดภาพพจน์ที่ดีต่อองค์กร และผลิตภัณฑ์
- เป็นระบบคุณภาพด้านความปลอดภัยของอาหารที่สามารถขอการรับรองได้
- เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาสู่ระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001
ISO 22000:2005 Food Safety Management System: FSMS ระบบการจัดการความปลอดภัยของอาหาร
ระบบการจัดการตัวใหม่ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับผู้ประกอบกิจการในอุตสาหกรรม อาหารและห่วงโซ่อาหาร ซึ่งมาตรฐาน ISO 22000 จะครอบคลุมทั้งข้อกำหนดของ GMP, HACCP และข้อกำหนดสำหรับระบบการจัดการในองค์กร มาตรฐานดังกล่าวเน้นที่ผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาการจัดการความปลอดภัยของ อาหารให้มีความชัดเจน โดยจะเป็นที่รวมของข้อกำหนดในมาตรฐานต่าง ๆ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อประกันความปลอดภัยของสินค้าตลอดเส้นทางห่วงโซ่อาหาร โดยเน้นที่การสื่อสารร่วมกันระบบการจัดการและการควบคุมอันตราย มีวัตถุประสงค์เพื่อประกันว่ามีการกำหนดรายละเอียดการตรวจสอบเพื่อความ ปลอดภัยของอาหารอย่างถูกต้องเหมาะสม และมีกระบวนการควบคุมตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพในทุกขั้นตอน โดยอาศัยข้อมูลจากการสื่อสารระหว่างผู้มีส่วนร่วมในห่วงโซ่อาหารทุกราย ให้ข้อมูลและหลักฐานตามความต้องการของลูกค้าและตัวแทนจำหน่ายในด้านความเป็น ไปได้ ความจำเป็น และผลกระทบที่มีต่อผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายโดยอาศัยข้อมูลจากการสื่อสารระหว่าง ลูกค้าและตัวแทนจำหน่าย